หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Rasberry tart


             โดยทั่วไปแล้ว ขนมเค้กที่ขายตามร้านเบเกอรี่หรือตามร้านอาหารในฝรั่งเศสนั้น จะเป็นลักษณะของทาร์ตผลไม้
คนฝรั่งเศสไม่กินเค้กครีมเหมือนคนไทย เราจะไม่พบเนื้อเค้กชั้นหนาๆ ที่เป็นแป้งผสมวนิลา ใบเตย ชอคโกแลต บัทเทอร์เค้ก ส้ม หรือกาแฟ แล้วปาดหน้าด้วยครีมหลากสี ส่วนพวกชีสเค้กหน้าบลูเบอร์รี่หรือเชอร์รี่กระป๋องก็ไม่มีวางขาย เครปเค้กและคัพเค้กยิ่งแล้วใหญ่ คนฝรั่งเศสไม่รู้จักเลย นอกจากนั้นแล้วเค้กที่ผสมพวกลูกอมหรือขนม เช่น ใส่คิทแคท ใส่ m&m หรือใส่เม็ดสีเรนโบว์ก็ไม่เป็นที่นิยม เพราะคนฝรั่งเศสคิดว่ามันไม่ได้มาจากธรรมชาติ
คนฝรั่งเศสนิยมกินทาร์ตผลไม้สด เช่น ทาร์ตราสเบอร์รี่ ทาร์ตสตรอเบอร์รี่ ทาร์ตแอปเปิ้ล ทาร์ตมะนาว และทาร์ตลูกแพร์
คนฝรั่งเศสไม่มีนิสัยกินจุบจิบหรือกินได้ตลอดเวลา คนไทยสามารถกินขนมเค้กหรือทาร์ตได้ทุกเวลาตลอดวัน แต่สำหรับคนฝรั่งเศส เขาจะกินเป็นมื้อเป็นคราว คือ กินขนมเค้กหรือทาร์ตเป็นของหวานหลังมื้ออาหารเที่ยงแล้วจบ ส่วนตอนบ่าย เขาจะแค่จิบกาแฟ Espresso เขาไม่ค่อยกินชา กาแฟ คู่กับขนมยามบ่าย
เมื่อเราสั่งทาร์ตผลไม้เป็นขนมหลังอาหารเที่ยง พนักงานเสิร์ฟจะถามว่ารับกาแฟด้วยไหม นี่เป็นแบบฉบับการกินของคนฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้ เพราะเขามักจะดื่มกาแฟต่อเลยหลังมื้ออาหาร

เราจะสังเกตเห็นว่า เนื้อแป้งทาร์ตราสเบอร์รี่ในรูปนี้ ต่างจากทาร์ตผลไม้ที่เราเคยเห็นโดยทั่วไป เพราะแคว้น Bretagne ( เบรอตาญ ) ดังที่เคยกล่าวไปแล้วว่าเป็นต้นตำรับแห่งเครปนั้น มีชื่อเสียงด้านบิสกิตเนยด้วย เพราะแคว้นนี้เป็นแหล่งผลิตเนยเค็ม และคาราเมลเค็มที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส บิสกิตชนิดนี้ เรียกว่า palets bretons ( ปาเล่ เบรอตง ) มีลักษณะพิเศษ คือ ทำมาจากเนยสดที่มีรสชาติไม่หวานมาก แต่หอม พอเรากัดเข้าไป ตอนแรกมันจะกรอบ แต่สักพักมันจะละลายในปากโดยที่ไม่ต้องเคี้ยว ถึงแม้ว่าเราจะกลืนไปแล้ว แต่รสชาติหวานปนเค็มของเนยยังคงติดอยู่ที่ปลายลิ้นและยังส่งกลิ่นหอมฟุ้งอยู่เลย



ดังนั้นทาร์ตผลไม้ที่นี่ จะเป็นแห่งเดียวที่ใช้บิสกิตรองแล้วทาด้วยครีมตีจากเนยขาวบางๆ เพื่อให้วางผลไม้ได้ รสชาติหวานของบิสกิต เข้ากันดีกับรสจืดของเนยขาว และตัดกับรสเปรี้ยวของราสเบอร์รี่ เขาไม่ได้ใช้แป้งทาร์ตสำเร็จรูปแล้วทาด้วยคัสตาร์ดครีมหวานๆเหมือนในแคว้นอื่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น